ตรีผลาเป็นตำรับอายุรเวทโบราณที่ใช้มานานหลายศตวรรษเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวม และพลานามัย ประกอบด้วยผลไม้ 3 ชนิด ได้แก่ มะขามป้อม สมอไทย และสมอพิเภก ซึ่งนำมาตากแห้ง และบดเป็นผง แล้วปั่นรวมกันในอัตราส่วนเฉพาะ แม้ว่าจะมีสูตรอาหารที่หลากหลาย แต่สูตรดั้งเดิมของตรีผลาบางสูตรยังรวมถึง มะขามป้อม สมอไทย และสมอพิเภก ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าส่วนผสมเหล่านี้ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างไร และขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการทำยาตรีผลา เพื่อที่จะนำมา ขายตรีผลา หรือ ทำการใช่เอง
รักษาส่วนผสมของตรีผลา
มะขามป้อม : มะขามป้อมเป็นส่วนผสมทั่วไปในอาหารอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายชนิด มักใช้เป็นสารให้รสเปรี้ยวในแกง และชัทนีย์ เพื่อรักษาน้ำพริกมะขาม เนื้อของผลมะขามจะถูกสกัด และกรองเพื่อเอาเมล็ด และเส้นใยออก จากนั้นจึงนำไปปรุงด้วยไฟอ่อนด้วยเกลือ และน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชาติ และยืดอายุการเก็บรักษา มะขามแช่อิ่มสามารถเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทในตู้เย็นได้นานหลายเดือน
สมอไทย : สมอไทย หรือ ที่เรียกว่า Terminalia bellirica เป็นหนึ่งในผลไม้สามชนิดที่ประกอบเป็นตรีผลา เพื่อรักษาสมอไทยให้เก็บผลเมื่อสุกเต็มที่ และเอาเนื้อออก จากนั้นเยื่อกระดาษจะถูกนำไปตากแดด หรือ ในเครื่องขจัดน้ำออกจนแห้ง เมื่อแห้งแล้ว เยื่อกระดาษจะบดเป็นผงละเอียด และเก็บไว้ในภาชนะที่มีอากาศถ่ายเทให้ห่างจากความชื้น และแสง
สมอพิเภก : สมอพิเภก หรือ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Terminalia chebula เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ใช้ในสูตรตรีผลา เช่นเดียวกับสมอไทย คือ เก็บผลเมื่อผลสุกเต็มที่ และเอาเนื้อออก จากนั้นเยื่อกระดาษจะถูกนำไปตากแดด หรือ ในเครื่องขจัดน้ำออกจนแห้ง เมื่อแห้งแล้ว เยื่อกระดาษจะบดเป็นผงละเอียด และเก็บไว้ในภาชนะที่มีอากาศถ่ายเทให้ห่างจากความชื้น และแสง
การทำยาตรีผลา
ขั้นตอนที่ 1 : รวบรวมส่วนผสม
ในการทำยาตรีผลา คุณต้องใช้ผลไม้ 3 ชนิด ที่ประกอบกันเป็นสูตร ได้แก่ มะขามป้อม สมอไทย และสมอพิเภก ตลอดจนส่วนผสมเพิ่มเติมที่คุณต้องการใส่ เช่น มะขามเปียก สมอไทย หรือ สมอพิเภก คุณจะต้องมีชามใบใหญ่ ตะแกรงกรองแบบละเอียด และเครื่องปั่น หรือ เครื่องผสมอาหาร
ขั้นตอนที่ 2 : เตรียมส่วนผสม
หากคุณใช้ผลไม้สด ให้ล้างให้สะอาด และปล่อยให้แห้งสนิท หากคุณใช้ผลไม้แห้ง ให้แช่ไว้ในน้ำหลายชั่วโมง หรือ ข้ามคืนเพื่อให้นิ่ม เมื่อผลไม้พร้อมแล้ว ให้เอาเมล็ด หรือ ก้านออก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หากคุณใช้มะขามเปียก ให้ตวงให้ได้ปริมาณที่ต้องการแล้วพักไว้
ขั้นตอนที่ 3 : ผสมผสานผลไม้
ใส่ผลไม้สับลงในเครื่องปั่น หรือ เครื่องเตรียมอาหาร แล้วปั่นด้วยความเร็วสูงจนเป็นผงละเอียด หากจำเป็น ให้หยุดเครื่องปั่น ใช้ไม้พายขูดด้านข้าง และให้แน่ใจว่าผลไม้ทั้งหมดบดละเอียดเท่ากัน
ขั้นตอนที่ 4 : กรองผง
เทผงผลไม้ผ่านกระชอนตาถี่ลงในชามขนาดใหญ่ ใช้ช้อน หรือ ไม้พายกดแป้งเข้ากับตะแกรง ดันอนุภาคละเอียดออกให้มากที่สุด ทิ้งชิ้นส่วน หรือ เมล็ดพืชขนาดใหญ่ที่เหลืออยู่ในเครื่องกรอง
ขั้นตอนที่ 5 : ผสมผง
หากคุณใช้มะขามเปียก หรือ ผงอื่นๆ เช่น สมอไทย หรือ สมอพิเภก ให้ใส่ผงผลไม้ลงในชามแล้วผสมให้เข้ากันโดยใช้ช้อน หรือ ไม้พาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รวมผงทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อให้แน่ใจว่ากระจายอย่างสม่ำเสมอ
นำผงตรีผลาใส่ภาชนะที่มีอากาศเข้า เช่น โหลแก้ว หรือ ภาชนะพลาสติกที่มีฝาปิดแน่น เก็บแป้งไว้ในที่แห้ง เย็นให้ห่างจากความชื้น และแสงแดดโดยตรง ผงตรีผลาจะเก็บได้นานหลายเดือนหากเก็บไว้อย่างถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 7 : เตรียมยาตรีผลา
ในการเตรียมยาตรีผลา ให้ใส่ผงหนึ่งช้อนชาลงในน้ำอุ่น หรือ ชาสมุนไพรหนึ่งถ้วย คนให้เข้ากันจนผงละลายหมด บางคนชอบที่จะเติมน้ำผึ้ง หรือ น้ำมะนาวหนึ่งช้อนชาเพื่อเพิ่มรสชาติ
ขั้นตอนที่ 8 : ใช้ยาตรีผลา
สามารถรับประทานยาตรีผลาวันละครั้ง หรือ สองครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะท้องว่าง แนะนำให้เริ่มด้วยขนาดน้อยๆ เช่น ครึ่งช้อนชา และค่อยๆ เพิ่มปริมาณเมื่อร่างกายของคุณปรับให้เข้ากับสูตร ตรีผลาเป็นที่ทราบกันดีว่ามีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ดังนั้นการดื่มน้ำมากๆ และดื่มน้ำให้เพียงพอในขณะรับประทานยาจึงเป็นสิ่งสำคัญ
โดยสรุป ตรีผลาเป็นตำรับอายุรเวทแบบดั้งเดิมที่ใช้มานานหลายศตวรรษเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวม และพลานามัย ประกอบด้วยผลไม้ 3 ชนิด ได้แก่ มะขามป้อม สมอไทย และสมอพิเภก ซึ่งนำมาตากแห้ง และบดเป็นผง แล้วปั่นรวมกันในอัตราส่วนเฉพาะ สูตรดั้งเดิมของตรีผลาบางสูตรยังรวมถึง มะขามเปียก สมอไทย และสมอพิเภก ส่วนผสมเหล่านี้จะถูกเก็บรักษาโดยการทำให้แห้ง และบดเป็นผงละเอียด จากนั้นเก็บไว้ในที่แห้ง และเย็น ปราศจากความชื้น และแสงแดดโดยตรง จึงทำการขายตรีผลา หรือ นำมารับประทานเป็นยาได้
ในการทำยาตรีผลา ผลไม้และผงอื่นๆ จะถูกผสมเข้าด้วยกัน กรองผ่านกระชอนตาถี่ แล้วเก็บไว้ในภาชนะที่มีอากาศถ่ายเท ในการรับประทานยา ให้เติมผงหนึ่งช้อนชาลงในน้ำอุ่น หรือ ชาสมุนไพร คนให้เข้ากัน และรับประทานวันละครั้ง หรือ สองครั้งในขณะท้องว่าง ตรีผลาเป็นที่รู้จักในด้านฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และสิ่งสำคัญ คือ ต้องเริ่มด้วยขนาดน้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณเมื่อร่างกายของคุณปรับให้เข้ากับสูตร