กระชายดำ เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลขิง และมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พืชชนิดนี้ใช้เป็นยาในการแพทย์แผนไทย และยังใช้เป็นเครื่องเทศในอาหารไทยอีกด้วย รากของกระชายดำถูกนำมาใช้เพื่อสรรพคุณในการรักษา ซึ่งรวมถึงการรักษาอาการปวดข้อ การอักเสบ และความเมื่อยล้า
แหล่งที่มาของกระชายดำ
กระชายดำเป็นพืชเขตร้อนที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย และสามารถพบได้ในส่วนอื่นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พืชเจริญเติบโตได้ในสภาพที่ชื้น และอบอุ่น มักพบในบริเวณที่มีร่มเงา รากของกระชายดำเป็นส่วนหลักของพืชที่ใช้เป็นยา และทำอาหาร
รากของกระชายดำ มีสารประกอบที่ออกฤทธิ์อยู่หลายชนิด ได้แก่ ฟลาโวนอยด์ ไตรเทอร์พีนอยด์ และสเตอรอล สารประกอบเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และอาจมีประโยชน์ในการรักษาสภาวะสุขภาพต่างๆ จึงมีการขายกระชายดำในรูปแบบต่าง
วิธีการปลูกกระชายดำ
หากคุณสนใจที่จะปลูกกระชายดำ ต่อไปนี้ คือ เคล็ดลับบางประการที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้
ภูมิอากาศ : กระชายดำเติบโตในสภาพที่อบอุ่น และชื้น ต้องการช่วงอุณหภูมิ 25-30°C (77-86°F) ต้นนี้สามารถปลูกได้กลางแจ้งในเขตร้อน และกึ่งเขตร้อน หรือ ปลูกในกระถางในร่มก็ได้
ดิน : พืชชอบดินที่มีการระบายน้ำดี และอุดมสมบูรณ์ซึ่งอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ ค่า pH ของดินควรอยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 6.5 หากคุณกำลังปลูกพืชในกระถาง ให้ใช้ปุ๋ยหมัก และทรายผสมกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระถางมีการระบายน้ำที่ดี
การให้น้ำ : กระชายดำต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ระวังอย่าให้น้ำมากเกินไปเพราะอาจทำให้รากเน่าได้ รดน้ำต้นไม้เมื่อรู้สึกว่าดินแห้งเมื่อสัมผัส.
แสง : พืชชอบร่มเงาบางส่วน และสามารถปลูกใต้ต้นไม้ หรือ ในจุดที่ได้รับแสงแดดส่องถึง แสงแดดส่องโดยตรงมากเกินไปอาจทำให้พืชเสียหายได้
ปุ๋ย : ใช้ปุ๋ยที่สมดุลซึ่งอุดมไปด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี
การขยายพันธุ์กระชายดำ ขยายพันธุ์ได้โดยการแบ่งเหง้าซึ่งเป็นลำต้นใต้ดินที่แตกยอดใหม่ ขุดเหง้า และแบ่งออกเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนมีหน่อ และรากเล็กน้อย ปลูกส่วนต่างๆ ในกระถาง หรือ ในดิน
วิธีถนอมกระชายดำ
หากคุณเก็บเกี่ยวรากกระชายดำแล้ว และต้องการเก็บรักษาไว้ใช้ในภายหลัง ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำบางประการ
การทำให้แห้ง : วิธีการถนอมกระชายดำโดยทั่วไป คือ การทำให้รากแห้ง ล้างราก และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ กระจายชิ้นส่วนบนพื้นผิวที่สะอาด แห้ง และปล่อยให้แห้งในบริเวณที่อบอุ่น และมีอากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อรากแห้งแล้วให้เก็บไว้ในภาชนะที่มีอากาศถ่ายเท
การแช่แข็ง : อีกวิธีในการเก็บกระชายดำ คือ การแช่แข็งราก ล้างราก และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ วางชิ้นส่วนไว้ในถุงแช่แข็ง และเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง รากกระชายดำแช่แข็งสามารถนำไปประกอบอาหารได้โดยไม่ต้องละลายน้ำ
ผง : รากกระชายดำยังสามารถบดเป็นผงละเอียด และเก็บไว้ในภาชนะที่มีอากาศถ่ายเท ในการทำผง ให้ทำความสะอาดราก และทำให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วให้บดให้เป็นผงละเอียดโดยใช้
การดอง : กระชายดำสามารถดองเพื่อถนอมอาหารได้ การทำกระชายดำดอง ให้ล้างราก และฝานบางๆ ในกระทะ ตั้งน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ และเครื่องเทศ เช่น เมล็ดผักชี พริกไทยดำ และใบกระวาน เมื่อส่วนผสมเดือด นำลงจากเตาแล้วปล่อยให้เย็น บรรจุกระชายดำที่หั่นแล้วลงในขวดโหลแล้วเทน้ำดองลงไป ปิดผนึกขวด และเก็บไว้ในตู้เย็น
น้ำเชื่อม : กระชายดำยังสามารถทำเป็นน้ำเชื่อม ล้างราก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตั้งน้ำ และน้ำตาลในกระทะจนน้ำตาลละลาย ใส่ชิ้นกระชายดำลงไปเคี่ยวประมาณ 20 นาที กรองส่วนผสมผ่านกระชอนตาถี่ และกรองของแข็งออก เก็บน้ำเชื่อมไว้ในขวดที่สะอาด และปิดสนิทในตู้เย็น
น้ำมัน : กระชายดำยังสามารถผสมลงในน้ำมันเพื่อใช้ในการปรุงอาหาร ล้างราก และฝานเป็นแว่นๆ ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เช่น น้ำมันมะกอก หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่กระชายดำที่หั่นแล้วเคี่ยวประมาณ 10 นาที นำกระทะออกจากเตาแล้วปล่อยให้เย็น กรองน้ำมันผ่านตะแกรงละเอียด เก็บไว้ในขวดที่สะอาด ะปิดสนิทในที่เย็น และมืด
ทิงเจอร์ : กระชายดำยังสามารถทำเป็นทิงเจอร์เพื่อใช้เป็นยาได้ ล้างราก และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ วางชิ้นส่วนในขวดโหลที่สะอาด และปิดฝาด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูง เช่น วอดก้า ปิดฝาขวด เก็บไว้ในที่เย็น และมืด เป็นเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ เขย่าขวดเป็นครั้งคราว หลังจากเวลาที่ต้องการ กรองของเหลวผ่านกระชอนตาถี่แล้วทิ้งของแข็ง เก็บทิงเจอร์ในขวดที่สะอาด ปิดสนิทในที่เย็น และมืด
บทสรุป
กระชายดำเป็นพืชสารพัดประโยชน์ที่มีการขายกระชายดำ ทั้งทำอาหาร และใช้เป็นยา เป็นพืชเมืองร้อนที่ต้องการอากาศอบอุ่นชื้นในการเจริญเติบโต ขยายพันธุ์ได้ โดยการแบ่งเหง้า รากของกระชายดำสามารถเก็บรักษาได้โดยการทำให้แห้ง แช่แข็ง ดอง ทำน้ำเชื่อม แช่ในน้ำมัน หรือ ทำทิงเจอร์ เมื่อทำตามคำแนะนำที่สรุปไว้ในบทความนี้ คุณจะได้รับประโยชน์จากกระชายดำในการทำอาหาร และในระบบการรักษาสุขภาพของคุณ