ตรีผลาเป็นสูตรสมุนไพรอายุรเวทที่ประกอบด้วยผลไม้ 3 ชนิด ได้แก่ มะขามป้อม (Emblica Officinalis), สมอไทย (Terminalia Chebula) และ สมอพิเภก (Terminalia Bellerica) สมุนไพรเหล่านี้แต่ละชนิดมีคุณสมบัติ และคุณประโยชน์เฉพาะตัว ซึ่งทำให้ตรีผลาเป็นยาที่มีประสิทธิภาพหลากหลาย และสำหรับสภาวะสุขภาพที่หลากหลาย จึงเป็นที่นิยมในการซื้อ-ขายตรีผลา ในช่องทางต่างๆ
วิธีการปลูกสมุนไพรแต่ละชนิดในตรีผลา
เราจะพูดถึงวิธีการปลูกสมุนไพรทั้งสามชนิดในตรีผลา และให้คำแนะนำในการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
มะขามป้อม (Emblica officinalis)
มะขามป้อม เป็นไม้ผลัดใบขนาดเล็กที่เติบโตได้สูงถึง 18 เมตร มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย และส่วนอื่นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มะขามป้อม เป็นสมุนไพรที่สำคัญที่สุดในตรีผลา และเป็นที่รู้จักกันว่า Indian Gooseberry อุดมไปด้วยวิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ และสารประกอบที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ซึ่งทำให้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และสารต้านการอักเสบ
ในการปลูกมะขามป้อมคุณต้องมีสภาพอากาศที่อบอุ่น และชื้น ต้นไม้เติบโตในดินที่มีการระบายน้ำดีซึ่งอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ ช่วง pH ที่เหมาะสำหรับมะขามป้อม อยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 7.5 ต้นไม้สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด หรือ การปักชำ หากคุณปลูกมะขามป้อม จากเมล็ด ให้แช่ในน้ำค้างคืนก่อนปลูก เมล็ดจะงอกในเวลาประมาณสองถึงสามสัปดาห์
เมื่อปลูกมะขามป้อม ให้แน่ใจว่าได้ให้แสงแดด และน้ำปริมาณมาก ต้นไม้ต้องการการรดน้ำเป็นประจำโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน สามารถตัดแต่งกิ่งมะขามป้อม เพื่อควบคุมการเจริญเติบโต และรูปร่างของมัน ต้นไม้ออกผลในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยว และนำไปใช้ในยาตรีผลา หรือ ยาอายุรเวทอื่นๆ
สมอไทย (Terminalia Chebula)
สมอไทย เป็นต้นไม้ผลัดใบขนาดใหญ่ที่เติบโตได้สูงถึง 30 เมตร มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย และส่วนอื่นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สมอไทย เป็นสมุนไพรที่สำคัญอันดับสองใน ตรีผลา และเป็นที่รู้จักกันว่า Chebulic Myrobalan อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แทนนิน และสารประกอบที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ซึ่งทำให้เป็นสารต้านการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย และต้านไวรัสที่มีศักยภาพ
ในการปลูก สมอไทย คุณต้องมีสภาพอากาศที่อบอุ่น และชื้น ต้นไม้เติบโตในดินที่มีการระบายน้ำดีซึ่งอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ ช่วง pH ที่เหมาะสำหรับสมอไทย อยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 7.5 ต้นไม้สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด หรือ การปักชำ หากคุณปลูกสมอไทยจากเมล็ด ให้แช่น้ำค้างคืนก่อนปลูก เมล็ดจะงอกในเวลาประมาณสองถึงสามสัปดาห์
เมื่อปลูกสมอไทย ให้แน่ใจว่าได้ให้แสงแดด และน้ำปริมาณมาก ต้นไม้ต้องการการรดน้ำเป็นประจำโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนสมอไทย สามารถตัดแต่งกิ่งเพื่อควบคุมการเจริญเติบโต และรูปร่างของมัน ต้นไม้ออกผลในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยว และนำไปใช้ในยาตรีผลา หรือ ยาอายุรเวทอื่นๆ
สมอพิเภก (Terminalia Bellerica)
สมอพิเภก เป็นต้นไม้ผลัดใบขนาดใหญ่ที่เติบโตได้สูงถึง 30 เมตร มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย และส่วนอื่นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สมอพิเภกเป็นสมุนไพรที่สำคัญอันดับสามในตรีผลา และเป็นที่รู้จักกันว่า Belleric Myrobalan อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แทนนิน และสารประกอบที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ซึ่งทำให้เป็นสารต้านการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย และต้านไวรัสที่มีศักยภาพ
ในการปลูก สมอพิเภก คุณต้องมีสภาพอากาศที่อบอุ่น และชื้น ต้นไม้เติบโตในดินที่มีการระบายน้ำดีซึ่งอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ อุดมคติ ต้นสมอพิเภกต้องการแสงแดดเต็มที่ และอุณหภูมิที่อบอุ่นจึงจะเติบโตได้ พวกเขาสามารถทนต่อร่มเงาได้บ้าง แต่ร่มเงามากเกินไปอาจทำให้ผลผลิตไม่ดี
ดินควรระบายน้ำได้ดี และมีระดับ pH ระหว่าง 5.5 ถึง 7.5 ต้นสมอพิเภกต้องการการรดน้ำเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูปลูก
อย่างไรก็ตาม การรดน้ำมากเกินไปอาจทำให้รากเน่า และโรคอื่นๆ ได้ต้นสมอพิเภกต้องการการตัดแต่งกิ่งเป็นประจำเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต และผลผลิตที่ดี ตัดต้นไม้ในช่วงปลายฤดูหนาวหรือต้นฤดูใบไม้ผลิก่อนที่จะมีการเจริญเติบโตใหม่
เนื่องด้วยตรีผลาเป็นสูตรสมุนไพรอายุรเวท ที่มีสมุนไพรอยู่ 3 ชนิด คือ มะขามป้อม, สมอไทย และสมอพิเภก ซึ่งในการเอามาทำเป็นตัวยาตรีผลาอาจมีขั้นตอนค่อนข้างมากสำหรับบางคนอาจไม่สะดวกทำเอง จึงมีการขายตรีผลา ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ หรือ ร้านขายยา และอาหารเสริม