ส้มแขก และ พริกไทยดำ เป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติ 2 ชนิด ที่นิยมใช้สำหรับการลดน้ำหนัก และการสลายไขมัน ส้มแขกเป็นผลไม้รูปฟักทองขนาดเล็กที่มีถิ่นกำเนิดในอินโดนีเซีย ในขณะที่พริกไทยดำเป็นเครื่องเทศที่พบได้ทั่วไปในอาหารหลายชนิดทั่วโลก อาหารเสริมทั้งสองชนิดนี้ได้รับการศึกษาถึงศักยภาพในการช่วยลดน้ำหนัก และหลายคนใช้อาหารเสริมสลาบไขมัน เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และการออกกำลังกาย
ประโยชน์ของส้มแขก และพริกไทยดำในการสลายไขมัน
ส้มแขกขึ้นชื่อว่ามีกรดไฮดรอกซีซิตริก (HCA) สูง ซึ่งเชื่อว่าจะไปขัดขวางเอนไซม์ที่ร่างกายใช้สร้างไขมัน นี่อาจช่วยลดความอยากอาหาร และช่วยสลายไขมันได้มากขึ้น
ในทางกลับกัน พริกไทยดำมีสารพิเพอรีนซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารในร่างกาย สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงการดูดซึมสารอาหารอื่นๆ ในร่างกาย รวมทั้งที่พบในส้มแขก ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อนำมารวมกัน อาหารเสริมทั้งสองชนิดนี้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้คุณลดน้ำหนัก และสลายไขมันได้ ประโยชน์บางประการของการใช้ ส้มแขก และพริกไทยดำ ในการลดน้ำหนัก ได้แก่
ลดความอยากอาหาร : เชื่อว่า ส้มแขก ช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้ง่ายต่อการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
เพิ่มการสลายไขมัน : เชื่อว่าทั้งส้มแขก และพริกไทยดำจะช่วยเพิ่มการสลายไขมัน ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
การดูดซึมที่ดีขึ้น : พริกไทยดำช่วยเพิ่มการดูดซึมของส้มแขก และสารอาหารอื่นๆ ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีปลูกส้มแขก และพริกไทยดำ
หากคุณสนใจที่จะปลูกส้มแขก และพริกไทยดำของคุณเอง เพื่อที่จะทำการขายสมุนไพรสลายไขมัน หรือ ทำการใช้เอง มีบางสิ่งที่คุณควรรู้
ส้มแขก
ภูมิอากาศ : ส้มแขก มีถิ่นกำเนิดในอินโดนีเซีย และต้องการอากาศอบอุ่นในเขตร้อนจึงจะเติบโตได้ ไม่ทนต่อความเย็นจัด และควรปลูกในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 60°F
ดิน : ส้มแขก ชอบดินที่ระบายน้ำได้ดี และอุดมด้วยสารอาหาร ดินควรเป็นกรดเล็กน้อย โดยมีค่า pH ประมาณ 6.0-6.5
การให้น้ำ : ส้มแขก ต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ระวังอย่าให้น้ำมากเกินไป ดินควรเก็บความชื้นไว้แต่อย่าให้มีน้ำขัง
ปุ๋ย : ส้มแขก ต้องการปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอด้วยปุ๋ยที่สมดุล ใช้ปุ๋ยละลายช้าทุกๆ 3-4 เดือน
การขยายพันธุ์ : ส้มแขก ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หรือ ตอนกิ่งก็ได้ หากคุณขยายพันธุ์จากเมล็ด ต้องแน่ใจว่าได้แช่น้ำไว้ 24 ชั่วโมงก่อนปลูก
พริกไทยดำ
ภูมิอากาศ : พริกไทยดำเป็นพืชเขตร้อนที่ต้องการอากาศชื้น และอบอุ่นในการเจริญเติบโต สามารถทนอุณหภูมิได้ต่ำถึง 50°F แต่ชอบอุณหภูมิระหว่าง 70°F-90°F
ดิน : พริกไทยดำชอบดินที่มีการระบายน้ำดี และอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ ดินควรเป็นกรดเล็กน้อย โดยมีค่า pH ประมาณ 5.5-6.5
การให้น้ำ : พริกไทยดำต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ระวังอย่าให้น้ำมากเกินไป ดินควรเก็บความชื้นไว้แต่อย่าให้มีน้ำขัง
ปุ๋ย : พริกไทยดำต้องการการปฏิสนธิอย่างสม่ำเสมอด้วยปุ๋ยที่สมดุล ใช้ปุ๋ยละลายช้าทุกๆ 3-4 เดือน
การขยายพันธุ์ : พริกไทยดำขยายพันธุ์โดยการปักชำ ตัดลำต้นที่มีความยาวอย่างน้อย 6 นิ้ว และปลูกไว้ในบ่อ
การบำรุงรักษาพืชส้มแขก และพริกไทยดำ
การบำรุงรักษาส้มแขก และพริกไทยดำ มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต ผลผลิตของส้มแขก และพริกไทยดำถ้าจะปลูกขายสมุนไพรสลายไขมัน ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยคุณดูแลต้นไม้ของคุณ
ส้มแขก
การตัดแต่งกิ่ง : ส้มแขก ต้องการการตัดแต่งกิ่งเป็นประจำเพื่อรักษารูปร่าง และส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี ตัดกิ่งที่ตายหรือเป็นโรคออก และเอาหน่อที่โผล่ออกมาจากโคนต้นออก
การให้น้ำ : รดน้ำส้มแขก เป็นประจำ แต่หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไปเพราะอาจทำให้รากเน่าได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินชื้นแต่ไม่มีน้ำขัง
การใส่ปุ๋ย : ใส่ปุ๋ยที่สมดุลทุกๆ 3-4 เดือนในช่วงฤดูปลูกเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี
การควบคุมศัตรูพืช : ระวังศัตรูพืช เช่น เพลี้ย เพลี้ยแป้ง และเกล็ด ซึ่งอาจทำให้ใบ และกิ่งของพืชเสียหายได้ รักษาการรบกวนด้วยสบู่ฆ่าแมลง หรือ น้ำมันสะเดา
พริกไทยดำ
การตัดแต่งกิ่ง : ตัดแต่งต้นพริกไทยดำเป็นประจำเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี และรักษารูปร่าง ถอนกิ่งที่ตาย หรือ เป็นโรคออก และตัดหน่อที่โผล่ออกมาจากโคนต้น
การรดน้ำ : รดน้ำต้นพริกไทยดำเป็นประจำ แต่หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไปเพราะอาจทำให้รากเน่าได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินชื้นแต่ไม่มีน้ำขัง
การใส่ปุ๋ย : ใส่ปุ๋ยที่สมดุลทุกๆ 3-4 เดือน ในช่วงฤดูปลูกเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี
Trellising : พริกไทยดำเป็นพืชปีนเขาที่ต้องการการสนับสนุนเพื่อให้เติบโต ฝึกเถาวัลย์เพื่อปีนโครงตาข่ายหรือโครงสร้างรองรับเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี
การควบคุมศัตรูพืช : ระวังสัตว์รบกวน เช่น ไรเดอร์ เพลี้ยไฟ และแมลงหวี่ขาว ซึ่งอาจทำให้ใบ และลำต้นของพืชเสียหายได้ รักษาการรบกวนด้วยสบู่ฆ่าแมลง หรือ น้ำมันสะเดา
โดยสรุปแล้วทั้งส้มแขก และพริกไทยดำจำเป็นต้องมีการตัดแต่งกิ่ง รดน้ำ ใส่ปุ๋ย และกำจัดศัตรูพืชเป็นประจำเพื่อรักษาการเจริญเติบโต และผลผลิตที่ดี คุณสามารถช่วยให้พืชของคุณเจริญเติบโต และบรรลุศักยภาพสูงสุดได้โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้