จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | สินค้าขายส่ง 500 มิลลิกรัม |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
รับผลิตอาหารเสริมปรับสมดุลฮอร์โมน ในวัยหมดประจำเดือนปัจจุบันที่เรามีการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง การรักษาสมดุลฮอร์โมนในร่างกายเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีของเราเช่นกัน อาหารเสริมที่มีคุณสมบัติเป็นประโยชน์ในการปรับสมดุลฮอร์โมนจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้คนที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตัวเอง
รับผลิตอาหารเสริมปรับสมดุลฮอร์โมนเป็นธุรกิจที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสมัยนี้ เนื่องจากผู้คนกำลังมีความสนใจในการดูแลสุขภาพและสมดุลฮอร์โมนของตนเอง อาหารเสริมที่ผลิตด้วยสารสกัดจากธรรมชาติและสูตรที่ได้รับการวิจัยอย่างรอบคอบเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มสมดุลฮอร์โมนและสุขภาพที่ดี หลายสูตรของอาหารเสริมปรับสมดุลฮอร์โมนมีประสิทธิภาพมากกว่าอื่นๆ โดยมีส่วนประกอบที่มีผลต่อการปรับสมดุลฮอร์โมนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนประกอบ 1. ถั่งเช่าธิเบต 150 มิลลิกรัม
2โกจิเบอรร์รี่ 70 มิลลิกรัม
3.โสมอเมริกัน 70 มิลลิกรัม
4.สารสกัดจากหอยนางรม 50 มิลลิกรัม
5. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 100 มิลลิกรัม
6.วิตามินดี 400 IU หน่วยสากล หรือเท่ากับ 0.010มิลลิกรัม
D3 =0.025 คูณ 400 เท่ากับ 10 ไมโครกรัม
1ไมโครกรัม เท่ากับ 0.001 มิลลิกรัม
แคปซูล 500 มิลลิกรัม
ทานวันละ2 แคปซูล หลังอาหารเย็น
การใช้อาหารเสริมปรับสมดุลฮอร์โมนอย่างถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายมีสมดุลฮอร์โมนที่เหมาะสม และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบฮอร์โมนได้ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่สอดคล้องกับความต้องการของร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้อาหารเสริมเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพของคุณเอง รับผลิตอาหารเสริมปรับสมดุลฮอร์โมนเป็นความสามารถที่เรามีเพื่อให้คุณได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามความต้องการของคุณ อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน วัยทอง (Menopause) คือ ภาวะที่สตรีเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน โดยรังไข่หยุดการผลิตไข่ ส่งผลให้ไม่มีประจำเดือนอีกต่อไป ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 45-55 ปี การที่รังไข่หยุดทำงานทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงที่เรียกว่า "เอสโตรเจน" ได้น้อยลง ซึ่งส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยที่อาการไม่พึงประสงค์ช่วงวัยทองอาจหายไปเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยชรา หรืออาจคงอยู่ไปตลอดจนสิ้นอายุขัยก็ได้ "วัยใกล้หมดประจำเดือน"
ข้อมูลจากเว็บไซต์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สัญญาณที่บ่งบอกว่าผู้หญิงกำลังย่างเข้าสู่วัยทองนั้น อาจจะแสดงอาการล่วงหน้าประมาณ 3-4 ปี คือก่อนที่รังไข่จะหยุดทำงาน และหยุดผลิตฮอร์โมน นั่นคือ ประจำเดือนจะเริ่มมาผิดปกติ เช่น จะมาเดือนละ 2-3 ครั้ง หรือมาบ้างไม่มาบ้าง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ารังไข่ทำงานน้อยลง แต่หากประจำเดือนขาดหายไปนาน 1 ปีเต็ม ก็แสดงว่ารังไข่ได้หยุดทำงานแล้ว และถือว่าได้เข้าสู่วัยทองอย่างสมบูรณ์ โดยเฉลี่ยผู้หญิงไทยจะหมดประจำเดือน เมื่ออายุประมาณ 48-50 ปีอย่างไรก็ตาม ความแตกต่างทางร่างกายของผู้หญิงทำให้ภาวะหมดประจำเดือนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยผู้หญิงประมาณ 15-20% จะไม่มีอาการไม่พึงประสงค์ใด ๆ นอกจากประจำเดือนหมดไปเฉย ๆ
อาการที่คนวัยทองพบบ่อย ได้แก่ • ร้อนวูบวาบ หนาว ๆ ร้อน ๆ
• ชาตามปลายมือ ปลายเท้า
• หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย ใจน้อย ซึมเศร้า
• ช่องคลอดแห้ง แสบ บางรายมีอารมณ์ทางเพศลดลง
• ปัสสาวะบ่อย และกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
• ผิวหนังแห้ง หนังศีรษะบาง ผมร่วง
• มีปัญหาเรื่องการนอน นอนน้อย นอนไม่หลับ
• อ้วนขึ้น เพราะระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้น้อยลง
• ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนไปนานแล้ว มักพบปัญหากระดูกพรุน โรคหลอดเลือดหัวใจ และสมองเสื่อม
คำแนะนำสำหรับสตรีวัยทอง
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำการปฏิบัติตนสำหรับสตรีวัยหมดประจําเดือน เช่น
• หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบได้
• ออกกําลังกายเป็นประจำ จะช่วยลดปัญหานอนไม่หลับ ทําให้อารมณ์ดีขึ้น อีกทั้งยังทําให้กระดูก และสุขภาพแข็งแรงขึ้น
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลา ผัก และผลไม้ เพื่อปรับฮอร์โมนให้คงที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และควรเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนจากธรรมชาติด้วยการรับประทานอาหารจําพวกถั่วเหลือง หรือพืชผักใบเขียว เพื่อช่วยลดอาการหงุดหงิด และอารมณ์แปรปรวน
การรักษา หากมีอาการเพียงเล็กน้อยก็มักจะหายไปเองตามธรรมชาติ โดยให้รักษาไปตามอาการ แต่หากอาการรุนแรงโดยเฉพาะอาการร้อนวูบวาบ มีเหงื่อออกมาก ก็ควรได้รับฮอร์โมนทดแทนเพื่อลด
อาการ อย่างไรก็ตาม อาการของสตรีวัยหมดประจําเดือนไม่ใช่อาการร้ายแรง และไม่ควรวิตกกังวลมากจนเกินไป แต่สิ่งที่ผู้หญิงวัยนี้ควรหมั่นสังเกต คือ หากว่ามีเลือดออกจากช่องคลอดกะปริบกะปรอย หรือออกนานกว่าปกติควรไปพบแพทย์
1.ถั่งเช่าทิเบต
“ ถั่งเช่าทิเบต ” เป็นสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนและทิเบต ขึ้นชื่อถึงความเป็นสุดยอดหรือราชาของสมุนไพรทั้งหลายเป็นที่รู้จักและนิยมกันอย่างแพร่หลายมาแต่โบราณ ด้วยสรรพคุณที่โดดเด่นทางยาและมีสารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมีคุณสมบัติสำคัญเป็น “ ยาอายุวัฒนะ ” คืนความหนุ่มสาวให้กับร่างกาย
คุณสมบัติของถั่งเช่าคือมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายได้แก่ สารโปรตีน กรดอะมิโน
วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 12 วิตามินอี วิตามินเค สารคอร์ไดเซปิน กรดคอร์ไดเซปิก เป็นต้น ที่มีส่วนสำคัญต่อการทำงานของร่างกายช่วยในการฟื้นฟูสุขภาพของเซลล์ ป้องกันเซลล์แก่ และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเพศเพื่อลดปัญหาวัยทอง
ด้วยสรรพคุณข้างต้นทำให้ผู้คนนิยมรับประทานสมุนไพร “ ถั่งเช่าทิเบต ” เพื่อบำรุงร่างกายชะลอวัยชราและแก้ปัญหาวัยทอง ที่น่าสนใจคือ “ ถั่งเช่าทิเบต ” เป็นอีกหนึ่งอาหารสมุนไพรบำรุงสุขภาพสำหรับทุกเพศทุกวัยรับประทานได้ตั้งแต่คนหนุ่มสาวจนถึงผู้สูงอายุ ด้วยเหตุผลนี้ผู้คนจึงนิยมรับประทานถั่งเช่าเพราะหนุ่มสาวรับประทานได้เพื่อบำรุงสุขภาพ ผู้สูงอายุรับประทานเพื่อฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย ป้องกันโรคสมองเสื่อม ชะลอวัยเป็นยาเพิ่ม “ อายุวัฒนะ ” เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคทั้งโรคเรื้อรังและโรคติดต่อ สุขภาพร่างกายแข็งแรงสดใสทำให้มีสุขภาพจิตดีแจ่มใสในทุก ๆ วัน
2.สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบลดการอาการซึมเศร้าและช่วยเรื่องการนอนหลับให้หลับดียิ่งขึ้นซึ่งจากผลการวิจัยในผู้เข้าร่วมการวิจัย 91 คนที่เข้าสู่ภาวะ วัยทองพบว่า ผู้หญิงที่ได้รับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น 200 มิลลิกรัม เป็นเวลา 8 สัปดาห์ มีอาการร้อนวูบวาบน้อยกว่า นอนหลับดีกว่า และมีจิตใจแจ่มใสมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้หญิงที่มีภาวะเดียวกันที่ไม่ได้บริโภคสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
3. วิตามินดี
วิตามินดี มีชื่อเรียกอีกอย่างนึงว่า “Sunshine Vitamin” ซึ่งวิตามินดีนั้นมีประโยชน์มากมาย ตัวอย่างเช่น ช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ป้องกันไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบ ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและบรรเทาอาการซึมเศร้า อย่างที่ทุกคนทราบกันดีแล้วว่าวิตามินดีนั้นมีประโยชน์กับคนทุกวัย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายมักจะได้รับวิตามินดีน้อยลง ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนควรได้รับวิตามินดีที่เพียงพอ เพราะสามารถ ช่วยให้อาการข้างเคียงต่างๆดีขึ้นได้ และ อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ที่เราควรทราบกันไว้ก็คือ วิตามินดีไม่สามารถพบได้ในอาหารที่เรารับประทานในทุกวัน ดังนั้น เราจำเป็นต้องได้รับวิตามินจากแสงแดดในตอนเช้าหรือจากการทานอาหารเสริม สำหรับผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 40 ปี เราแนะนำให้ทานวิตามิดี 200 IU ต่อวัน และในผู้สูงวัยควรทานวิตามินดี 400 IU ต่อวัน หรือออกไปรับแสงแดดในตอนเช้า 20 นาทีในทุกๆวัน
4.โกจิเบอร์รี่
แพทย์แผนจีน แนะนำให้ผู้ที่ประสบปัญหากับอาการไม่พึงประสงค์เมื่อเข้าสู่วัยทอง ทานโกจิเบอร์รี่ (เม็ดเก๋ากี้) เนื่องจากโกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน (HGH) ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ช่วยให้มีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น ช่วยในการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย และ ยังช่วยในเรื่องของสุขภาพ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยทำให้ผ่อนคลาย ส่งเสริมการนอนหลับให้ดีขึ้น ลดความตึงเครียด ซึ่งสำหรับคนจีนแล้ว กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
เก๋ากี้หรือโกจิเบอร์รี่ (Gojiberry) เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งในตระกูลเบอร์รี่มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ทิเบต ดินแดนเทิอกเขาหิมาลัย มีบันทึกในประวัติศาสตร์ย้อนไปถึง 2,000 ปี ที่กล่าวถึงว่าเป็นสมุนไพรส่วนประกอบในตำรับยาแพทย์จีนโบราณ เป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นสูงในอดีตจัดเป็นสมุนไพรตำรับยาอายุวัฒนะ อีกชนิดหนึ่งรวมถึงสมัยปัจจุบันนี้ยังจัดเป็นซุปเปอร์ฟูด (Super Food) อีกด้วย
ผลจากการวิจัยของ Dr.Earl Mindell กล่าวถึง เก๋ากี้หรือโกจิเบอร์รี่ว่าทรงคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดโดยมีกรดอะมิโน 19 ชนิด มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการรวม 21 ชนิด ได้แก่ สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม และเจอร์มาเนียม (ทำลายเซลล์มะเร็ง) มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 500 เท่า มีวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 และวิตามินอี ปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ ฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีให้กลับสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น มีแอนตี้ออกซิแดนซ์ ต่อต้านอนุมูลอิสระจากการทำลายเซลล์และชะลอความชรามากที่สุดในโลก สรรพคุณและประโยชน์จากเก๋ากี้ที่ส่งผลดีต่อระบบภายในของเรารวมถึงผลดีต่อรูปลักษณ์ภายนอกด้วยมีมากมายดังต่อไปนี้
ป้องกันไขมันอุดตันไขมันส่วนเกินและเบาหวาน
โกจิเบอร์รี่เร่งการเผาผลาญไขมันได้ดีจึงช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเป็นไขมันอุดตัน ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานที่มาจากน้ำตาลได้ดีทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานได้ และจากการทดลองใช้สารโพลีแซคคาไรด์ในโกจิเบอร์รี่กับกลุ่มทดลองพบว่าสามารถทำให้ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
ในโกจิเบอร์รี่มีสารโพลีแซคคาไรด์ 4 ชนิด คือ LBP-1 , LBP-2 , LBP-3 , LBP-4 ที่มีส่วนในการลดน้ำหนักร่างกายโดยกระบวนการเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน ทำให้ไม่เกิดไขมันสะสมในร่างกาย ลดโอกาสการเป็นโรคเบาหวานจากการปรับให้น้ำตาลและอินซูลินในเลือดมีความสมดุล และสารดังกล่าวยังสามารถปรับความดันเลือดให้เป็นปกติป้องกันการเกิดโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ
บำรุงสมองป้องกันอัลไซเมอร์ คลายเครียด เพิ่มสุขภาวะต่อการหลับนอน
สารสำคัญชนิดหนึ่งในโกจิเบอร์รี่คือ บีเทน (Betaine) มีคุณสมบัติให้เกิดการสร้างสารโคลีน (Choline) เป็นสารประกอบสำคัญสำหรับสมองช่วยเสริมสร้างและพัฒนาสมอง ความจำ จึงมีส่วนป้องกันโรคอัลไซเมอร์
ผลการวิจัยของการดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่โดย Amagase H. ต่อระบบการทำงานภายในร่างกายพบว่าการดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่ติดต่อกัน 14 วัน ทำให้การนอนหลับดีขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของร่างกายดีขึ้น ความเครียดความกังวลน้อยลงมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น มีผลดีขึ้นต่อความจำระยะสั้น สมาธิ
บำรุงสายตา
โกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูง โดยเฉพาะสารซีแซนทีน ไดปาล์มีเตท (Zeaxanthin Dipalmitate) เป็นสารที่เป็นส่วนประกอบในจอตา ผลจากงานวิจัยมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา พบว่าซีแซนทีนชะลออาการเสื่อมของประสาทตา จอประสาทตา ส่งเสริมการมองเห็นของผู้สูงอายุได้ รวมถึงงานวิจัยของศาสตราจารย์เบซิล มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ออสเตรเลีย พบว่าสารเทารีน (Taurine) ในโกจิเบอร์รี่มีผลดีต่อการมองเห็นของผู้ป่วยเบาหวาน ลดความเสี่ยงการเกิดโรคตาบอดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ชนิดที่ 2 ได้ และยับยั้งการตายของเซลล์ในจอประสาทตาได้
ต้านอนุมูลอิสระบำรุงผิวพรรณ ต้านเซลล์มะเร็ง
การวิจัยเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระในโกจิเบอร์รี่พบว่าโกจิเบอร์รี่ 100 กรัม จะมีค่า ORC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) สูงถึง 25,300 หน่วย เป็นยาอายุวัฒนะหรือซุปเปอร์ฟูด ที่ชะลอวัย ยับยั้งการเกิดริ้วรอยของผิวพรรณ ดูแลรักษาผิวพรรณให้สวยงาม เปล่งปลั่ง สดใส ไม่หมองคล้ำ มีภูมิต้านทานต่อรังสี UV
วิตามินซีที่มีอยู่มากในโกจิเบอร์รี่ที่มากกว่าส้มถึง 500 เท่า บำรุงผิวพรรณ สร้างเซลล์ผิวใหม่ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ยับยั้งการเกิดฝ้าที่เกิดจากเม็ดสีเมลานิน ที่สำคัญยังสร้างคอลลาเจนให้กับเนื้อเยื่อด้วย
และมีผลการศึกษาจากวารสาร Agricultural and Food Chemistry ปี 2008 กล่าวถึงการที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากในโกจิเบอร์รี่จึงสามารถปกป้องเซลล์ร่างกายจากการถูกทำลายด้วยเซลล์มะเร็ง ซ่อมแซมเซลล์ที่เกิดการอักเสบ ปกป้องเซลล์จากความเสื่อมและป้องกันการเกิดเนื้องอกได้ และงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโกจิเบอร์รี่ต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่บ่งชี้ว่าสารโพลีแซคคาไรด์โกจิเบอร์รี่อาจเป็นสารต้านมะเร็งได้
จะเห็นได้ว่าเก๋ากี้หรือโกจิเบอร์รี่นี้เป็นสุดยอดอาหาร ซุปเปอร์ฟูดและยาอายุวัฒนะ สำหรับผู้คนในสมัยโบราณนานมาจนถึงปัจจุบัน เป็นอาหารที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้คนในยุคสมัยนี้อย่างยิ่งด้วย ซึ่งดูแลบำรุงสุขภาพผู้คนเราจากระบบการทำงานภายในเรื่องภูมิคุ้มกัน ไขมัน เบาหวาน สมอง ความจำ ส่งผลดีออกมาสู่ภายนอกในเรื่องสายตาการมองเห็น ผิวพรรณและสุขภาพจิตที่ดี นอนหลับง่าย
ซึ่งการรับประทานโกจิเบอร์รี่จากอดีตจนถึงปัจจุบันมีทั้งการนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ นำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารเช่น ซุป ต้มตุ๋นยาจีน และนำมาเป็นผลไม้อบแห้ง ได้สกัดเฉพาะสารออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจากโกจิเบอร์รี่ออกมาในรูปแบบสารสกัดในปริมาณที่เข้มข้น รับประทานง่าย ไม่ยุ่งยาก เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ให้คุณประโยชน์และคุ้มค่าต่อการดูแลรักษา ชะลอวัย ให้มีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงต่อผู้บริโภคไปอีกนาน
5. โสมอเมริกัน
โสมอเมริกัน ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดหัว อาการของผู้หมดประจำเดือน ระบบประสาทเหนื่อยล้า และอาการเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากโสมอเมริกันสามารถช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งเราแนะนำให้รับประทาน โสมอเมริกันมากกว่าตัวอื่นๆ เนื่องจากโสมตัวอื่นๆทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ซึ่งผู้ที่อยู่ในช่วงหมดประจำเดือนควรหลีกเลี่ยง
6. สารสกัดจากหอยนางรม
หอยนางรม เป็นแหล่งรวมสารอาหารสำคัญต่อร่างกายรวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น สังกะสี ( Zinc ) ทองแดง วิตามินบี 12 วิตามินดี โปรตีน และโอเมก้า 3 เป็นต้น เป็นอาหารทะเลที่มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ มีระดับไขมันคอเลสเตอรอลต่ำเมื่อเทียบกับอาหารทะเลชนิดอื่น ๆ เช่น ปลาแซลมอน ปู และกุ้ง เป็นต้น
หอยนางรมให้ประโยชน์ที่สำคัญและมีความจำเป็นต่อทั้งผู้ชายและผู้หญิงอย่างไรบ้าง
1. หอยนางรมอุดมไปด้วยแร่ธาตุสังกะสีกระตุ้นโลหิตไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ดีขึ้น หากผู้หญิงขาดสังกะสีอาจกระทบต่อระบบสืบพันธุ์โดยทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ ชะลอการผลิตไข่ที่มีคุณภาพดี ทำให้ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเทอโรนในผู้หญิงลดต่ำลง และมีงานวิจัยที่พบว่าสารสกัดจากหอยนางรมอาจกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มความทนทานในขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
2.. สังกะสีจากหอยนางรมมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างฮอร์โมนเพศชาย คือ เทสโทสเตอโรน ( Testoterone ) ทำให้สมรรถภาพของร่างกายดีขึ้น ป้องกันโรคต่อมลูกหมากอักเสบ
3. มีสารประกอบสำคัญคือ เทารีน ( Taurine ) ซึ่งส่งผลต่อการทํางานของระบบประสาท มีผลต่อการทํางานของต่อมหมวกไตซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนเพศ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานให้กับร่างกาย มีส่วนในกระบวนสร้างฮอร์โมนเพศชายคือเทสโทสเตอโรนทําให้มีสมรรถภาพทางเพศที่ดีขึ้นและป้องกันต่อมลูกหมากอักเสบ
4. จากการวิจัยค้นคว้าในห้องทดลองพบว่าสารสกัดจากหอยนางรมมีคุณสมบัติลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ รวมถึงลดระดับความดันโลหิตลง
5. จากการวิจัยพบว่าสารสกัดโพลีแซคคาไรด์ ( Polysaccharide ) ในหอยนางรมลดระดับความดันโลหิตจากภาวะความดันโลหิตสูงได้
6. หอยนางรมมีแคลเซียมและวิตามินดีที่สำคัญในกระบวนการสร้างกระดูก ซึ่งมีงานวิจัยทดลองพบว่าหอยนางรมอาจมีประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
7. แร่ธาตุสังกะสีในหอยนางรมช่วยนำวิตามินเอจากตับไปสร้างเม็ดสีเมลานินที่จอประสาทตา และจากการศึกษาเกี่ยวกับโรคตาที่สัมพันธ์กับอายุพบว่าการบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสีอย่างหอยนางรมอาจชะลอการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้
หอยนางรมจึงจัดเป็นอาหารที่มีแร่ธาตุสารอาหารวิตามินที่มีประโยชน์ต่อระบบสืบพันธุ์ทั้งเพศชายและเพศหญิงอย่างมาก บางบุคคลนิยมรับประทานหอยนางรมดิบซึ่งเป็นความนิยมและความเชื่อส่วนบุคคลซึ่งหอยนางรมที่ไม่ผ่านการปรุงสุกอาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคและสารเคมีเป็นพิษโดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียวิบริโอ วัลนิฟิคัส ( Vibrio Vulnificus ) ที่อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพได้ ดังนั้นความต้องการสารอาหารแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์ต่าง ๆ ต่อร่างกายจากหอยนางรม ทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มาในรูปแบบสารสกัดหอยนางรมเป็นทางเลือกที่ดี เพราะได้ผ่านการสกัดมาเฉพาะในส่วนของวิตามินแร่ธาตุและสารอาหารที่เป็นประโยชน์เท่านั้นโดยไม่ส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอื่น ๆ
เราเป็นโรงงานที่ได้มาตราฐาน GMP ที่ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมปรับสมดุลฮอร์โมนที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้เรายังให้บริการขายส่งและสนับสนุนการสร้างแบรนด์อาหารเสริมปรับสมดุลฮอร์โมนสำหรับธุรกิจที่สนใจ หากคุณต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีการรับรองมาตรฐานสูงสำหรับการปรับสมดุลฮอร์โมน โรงงานของเราเป็นตัวเลือกที่ดีที่คุณควรพิจารณา ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |